Search

อัครา ผนึก พีเอ็มอาร์ – ออสสิริส ดันไทยเป็นฮับทองคำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สานต่อวิสัยทัศน์ “ทองไทย เพื่อคนไทย”

กรุงเทพฯ (7 กันยายน 2566) — คุณสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมเปิดและเยี่ยมชมบูธความร่วมมือ “ทองไทย เพื่อคนไทย” ระหว่าง บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (“อัครา”), บริษัท รีฟายนิ่งโลหะมีค่า จำกัด (“พีเอ็มอาร์”), กับ บริษัท ออสสิริส จำกัด (“ออสสิริส”) ภายในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Bangkok Gems and Jewelry Fair) ครั้งที่ 68 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บูธความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่สอง สานต่อวิสัยทัศน์ “ทองไทย เพื่อคนไทย” เดินหน้าส่งต่อ “คุณค่าไทย” ผ่านทองคำไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย สู่สายตาโลก ผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตทองคำแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยกระดับการแข่งขันของสินค้าทองและเงินของไทยให้สินค้าทองและเงินไทยผ่านเกณฑ์ FTA ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ลดหย่อนภาษีนำเข้าของประเทศปลายทางจากการพิสูจน์ประเทศต้นทาง (Country of Origin) ว่าใช้ทองที่ถลุง สกัดและแปรรูปในไทย สร้างมูลค่าในประเทศไทยอย่างน้อย 40% ของต้นทุน สร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ทองและเงินไทยในตลาดต่างประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้า ทำให้มียอดสั่งซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน

นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ หัวหน้าผู้จัดการทั่วไป บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด กล่าวถึงบทบาทการยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาชุมชนรอบเหมืองของ อัครา ในกรอบความร่วมมือ “ทองไทย เพื่อคนไทย” ว่า อัครา จะเป็นผู้ผลิตและส่งต่อทองคำในรูปแบบแท่งโดเร่ ให้ พีเอ็มอาร์ สกัดออกมาเป็นทองบริสุทธิ์ ด้วยกระบวนการตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตรฐานด้านความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม แล้วจึงส่งทองต่อให้ ออสสิริส แปรรูปเป็นทองคำแท่งและทองรูปพรรณเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป นับเป็นการผนึกกำลังคุณค่าสากล ผ่านการยกระดับ “สายการผลิตทองคำ” สู่ “ห่วงโซ่คุณค่าทองคำ” ที่สามารถส่งต่อคุณค่า ข้ามพรมแดน ข้ามเวลา หมุนเวียนทั่วไทย ต่อไปทั่วโลก

นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า อัครา เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ปัจจุบันได้ผลิตทองและเงินมาตรฐานสากลโดยเฉลี่ยปีละกว่า 120,000 ออนซ์และ 1,000,000 ออนซ์ โดยไม่เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานมาแล้วถึง 23.6 ล้านชั่วโมงสะสม จนได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘เหมืองทองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก’ ป้อนเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วกว่า 40,000 ล้านบาท ผ่านการสร้างอัตราจ้างงานให้กับพนักงานคนไทยประมาณ 1,000 คน โดย 90% มาจากชุมชนรอบเหมือง พันธกิจยกระดับคุณภาพชีวิตพัฒนาชุมชนรอบเหมืองยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ อัครา ยังเข้าไปปรับปรุงซ่อมแซม บำรุงรักษาระบบประปาทั้งหมด 28 หมู่บ้าน ภายในรัศมี 5 กิโลเมตรจากขอบเหมืองอยู่เป็นประจำ พร้อมปลูกต้นไม้ห่มดิน โดยตั้งเป้าปลูกให้ได้กว่า 1,000,000 ต้น ภายในปี พ.ศ. 2570 นอกจากนี้ ตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมา อัครา ได้จ่ายค่าภาคหลวงไปแล้วกว่า 4,600 ล้านบาท โดย 40% ไปที่ส่วนกลาง อีก 50% ไปที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่ประทานบัตรตั้งอยู่ และอีก 10% ไปที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ทั่วประเทศ ทั้งยังสมทบเงินเข้ากองทุนต่าง ๆ อีก 21% ของค่าภาคหลวงในแต่ละปี 

ม.ล.ปรมาภรณ์ เทวกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รีฟายนิ่งโลหะมีค่า จำกัด หรือ พีเอ็มอาร์ กล่าวว่า มาตรฐาน RJC Certification และ GIT Standard สะท้อนให้ความมุ่งมั่นของ พีเอ็มอาร์ ในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่บริษัทต่างๆ อยากทำความร่วมมือในด้านการแปรรูปและสกัดโลหะมีค่า มั่นใจจะผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการแปรรูปและสกัดทองคำแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยกระดับการแข่งขันของไทยกับสินค้าทองและเงินจากประเทศอื่น ทำให้สินค้าทองและเงินไทยผ่านเกณฑ์ FTA ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ลดหย่อนภาษีนำเข้าของประเทศปลายทางจากการพิสูจน์ประเทศต้นทาง (Country of Origin) ว่าใช้ทองที่ถลุง สกัดและแปรรูปในไทย และเป็นไปตามมาตรฐานสากล สร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ทองและเงินไทยในตลาดต่างประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้า ทำให้มียอดสั่งซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้ยังทำให้การแจ้งต้นทุนมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าผลิตภัณฑ์ทองคำและเงินดังกล่าวสร้างมูลค่าในประเทศไทย 40% ของราคา สร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทองคำอย่างออสสิริส

นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารงาน บริษัท ออสสิริส จำกัด กล่าวว่า ออสสิริส เป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่าย-รับซื้อคืนทองคำแท่งและทองรูปพรรณ มีรากฐานมาจากการเป็นช่างทองสกุลเพชรบุรี ในความร่วมมือ “ทองไทย เพื่อคนไทย” ทองคำจะถลุงโดยอัครา สกัดโดยพีเอ็มอาร์ และแปรรูปโดยออสสิริส หลอมแล้วเจียระไนออกมาเป็นองค์รวมแห่งคุณค่าสากลทั้งสาม ให้ผู้สวมใส่ได้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สวมใส่ทองไทย ได้ครอบครองทองไทย ในรูปแบบทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง ล่าสุด ออสสิริส ก็ได้เปิดตัว Gold Treasures คอลเล็คชั่นทองคำแท่งเล็ก 99.99% ที่มาพร้อมลวดลายอัตลักษณ์ไทย ซึ่งตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่เพียงแต่ได้สร้างงานกระจายรายได้ หากแต่ยังได้ส่งเสริมงานฝีมือช่างทองไทย ยกระดับสายการผลิตทองคำสู่ห่วงโซ่คุณค่าทองคำ” อย่างแท้จริง

อัครารวมพลังพันธมิตรช่วยซ่อมโรงเรียนในชุมชน หลังพายุพัดถล่มหลังคา

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) นำโดย นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน ได้มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ทองคำชาตรี และจากธารน้ำใของพนักงานและคู่ค้าพันธมิตรในชุมชน ให้แก่โรงเรียนวัดสัตตศิลาอาสน์ ในพื้นที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร หลังประสบเหตุวาตภัยถล่มหลังคาโรงเรียนเสียหายเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต้องอพยพไปเรียนที่ศาลาธรรมสังเวชหน้าเตาเผาศพของวัดแทน

นางสุนันท์ พระวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสัตตศิลาอาสน์ เปิดเผยว่า “โรงเรียนของเราได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังจากเกิดวาตภัย นักเรียนจำนวน 69 คน จึงต้องย้ายไปเรียนที่ศาลาธรรมสังเวชหน้าเตาเผาศพของวัดชั่วคราว ซึ่งบางวันก็มีงานศพหรือกิจของทางวัด ทำให้นักเรียนไม่สามารถเรียนได้ตามปกติ อีกทั้งยังมีนักเรียนใหม่ 75 คนที่ต้องย้ายไปเรียนที่อื่นเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว เราจึงซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากที่บริษัท อัคราฯ และชุมชนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาและได้ให้ความช่วยเหลือแก่เรา”

ความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เบื้องต้นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตรเขต 2 ประเมินไว้ที่กว่า 2 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ ร่วมกับพันธมิตรในชุมชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ได้มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินกว่า 1 แสนบาท เพื่อเร่งให้การซ่อมแซมหลังคาโรงเรียนเป็นไปอย่างรวดเร็ว

นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า “บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและการพัฒนาชุมชนโดยรอบพื้นที่มาโดยตลอด พนักงานของเรา 90% เป็นคนในชุมชน เมื่อชุมชนประสบความเดือดร้อน เราจึงพร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นด้วยกำลังทรัพย์ กำลังกาย หรือกำลังใจ เพราะที่นี่คือบ้านของเรา และเราทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน”

รู้หรือไม่? การบริหารจัดการบ่อกักเก็บกากแร่ ทำอย่างไร