ในทุก ๆ วัน เราต่างพึ่งพา ‘ทรัพยากรธรรมชาติ’ รอบตัว ตั้งแต่อากาศที่เราหายใจ น้ำที่ดื่ม อาหารที่เรากิน เสื้อผ้าที่สวมใส่ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มาจากแร่ธาตุและโลหะ ไปจนถึงพลังงานที่ขับเคลื่อนชีวิตและเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้มาจากทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้น ซึ่งเปรียบเสมือนขุมทรัพย์และมรดกที่ธรรมชาติมอบไว้ให้ แล้วคุณเคยสงสัยกันไหม… ว่าจริง ๆ แล้วทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้มาจากไหน ? มีอะไรบ้างและมีมากน้อยแค่ไหน ? เมื่อการใช้ชีวิต = ใช้ทรัพยากร อนาคตเราเราจะมีใช้ไปอีกนานแค่ไหน ? ไปเปิดโลกของทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้กัน
ทรัพยากรธรรมชาติ คืออะไร สำคัญกับเราแค่ไหน ?
ทรัพยากรธรรมชาติ (Natural Resources) คือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่พวกเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อตอบสนองความต้องการในการดำรงชีวิตในทุกมิติ ไม่ว่าจะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก เป็นปัจจัยพื้นฐานที่รองรับการดำรงอยู่ของประชากรโลก รวมถึงการเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย เรียกได้ว่าทรัพยากรธรรมชาติสำคัญอย่างยิ่งต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้
ทรัพยากรธรรมชาติ มีอะไรบ้าง ?
ทรัพยากรธรรมชาติสามารถแบ่งได้หลากหลายแบบ แต่โดยส่วนใหญ่จะแบ่งตาม 2 แนวทางหลัก ดังนี้
1. ทรัพยากรธรรมชาติแบ่งตามขีดจำกัดในการใช้งาน

- ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดสิ้น (Renewable Resources) ทรัพยากรเหล่านี้มีอยู่ตลอด หรือสามารถหมุนเวียนทดแทนได้ตามธรรมชาติในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่น แสงอาทิตย์ ลมและอากาศ แต่อาจเสื่อมสภาพจนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนแต่ก่อน หากไม่ดูแลรักษา ใช้อย่างไม่ระมัดระวัง หรือสร้างมลพิษที่ส่งผลต่อทรัพยากรเหล่านี้
- ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วสามารถบำรุงรักษาให้คงสภาพอยู่ได้ (Maintainable Resources) ทรัพยากรเหล่านี้สามารถ “ฟื้นฟู” ตัวเองได้ แต่ต้องใช้เวลาและอาจต้องมีการจัดการที่เหมาะสม เช่น ดิน น้ำ ป่าไม้และสัตว์ป่า หากใช้มากเกินไปหรือไม่ระวังอาจเสื่อมโทรมหรือหมดไปได้เช่นกัน
- ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป (Non-renewable Resources) ทรัพยากรเหล่านี้มีอยู่อย่างจำกัด ใช้แล้วหมดไปและไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ หรือถ้าทำได้ก็กินเวลายาวนานหลายล้านปี เช่น แร่ธาตุ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน เราจึงต้องใช้อย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด รวมถึงพัฒนาหาทรัพยากรทางเลือกอื่นมาทดแทน
2. ทรัพยากรธรรมชาติแบ่งตามลักษณะ

- ทรัพยากรดิน ดินเป็นพื้นฐานสำคัญของการเกษตร เพราะเป็นแหล่งธาตุอาหาร น้ำและที่ยึดเกาะของรากพืช นอกจากนี้ ดินยังมีความสำคัญต่อการก่อสร้าง เป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนและองค์ประกอบของระบบนิเวศโดยรวม
- ทรัพยากรน้ำ ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำคือปัจจัยที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อทุกชีวิตบนโลก ถ้าขาดน้ำการดำรงชีวิตทั้งของมนุษย์ สัตว์และพืชย่อมเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เพราะทุกกิจกรรมต้องใช้น้ำทั้งสิ้น ตั้งแต่การอุปโภคบริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม การผลิตไฟฟ้าไปจนถึงการคมนาคม
- ทรัพยากรป่าไม้และทิวทัศน์ ป่าไม้และทิวทัศน์มีบทบาทหลากหลายและสำคัญยิ่งต่อโลก นอกจากเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า แหล่งอาหารและยารักษาโรคแล้ว ความงดงามตามธรรมชาติยังเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวอีกด้วย นี่จึงเป็นทรัพยากรที่ทุกคนต้องช่วยกันรักษา
- ทรัพยากรสัตว์ป่า ความหลากหลายทางชีวภาพคือหัวใจของระบบนิเวศที่สมบูรณ์ สัตว์ป่าคือองค์ประกอบหลักในการรักษาสมดุล มีความสำคัญในห่วงโซ่อาหาร ช่วยควบคุมประชากร มากกว่านั้นยังเป็นส่วนสำคัญของการศึกษาและท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การอนุรักษ์สัตว์ป่าจึงเท่ากับการรักษาสมดุลของโลก
- ทรัพยากรแร่ธาตุและโลหะ อุตสาหกรรม การก่อสร้าง และเทคโนโลยียุคปัจจุบัน ล้วนต้องพึ่งพาแร่ธาตุและโลหะเป็นวัตถุดิบสำคัญ ตั้งแต่เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทรัพยากรกลุ่มนี้จึงส่งผลโดยตรงต่อความมั่งคั่งและความมั่นคงของประเทศ
- ทรัพยากรพลังงาน พลังงานคือปัจจัยขับเคลื่อนแทบทุกกิจกรรมของมนุษย์ ตั้งแต่การดำรงชีวิต การคมนาคมไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเราใช้ทรัพยากรพลังงานจากแหล่งต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน แสงอาทิตย์ ลม หรือพลังงานหมุนเวียน และพัฒนาต่อยอดเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
- ทรัพยากรมนุษย์ มนุษย์เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดเพราะมีความสามารถในการคิดค้น สร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรอื่น ๆ ได้
สร้างจุดสมดุลให้ทรัพยากรธรรมชาติระหว่าง ‘การใช้’ กับ ‘การรักษา’
คุณเคยสงสัยไหมว่าในเมื่อทุก ๆ วัน เรา ‘ใช้ชีวิต = ใช้ทรัพยากร’ จุดสมดุลระหว่าง ‘การใช้’ กับ ‘การรักษา’ นั้นจะต้องทำอย่างไรในเมื่อทรัพยากรธรรมชาติบางอย่างก็พร้อมที่จะหมดสิ้นได้เสมอ คำตอบคือการร่วมมือกัน ‘อนุรักษ์’ ทรัพยากรธรรมชาติ และ ‘พัฒนา’ อย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางต่อไปนี้
- ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า ลดการใช้ นำมาใช้ซ้ำ หรือรีไซเคิล
- ลดการปล่อยมลพิษ ลดการใช้พลาสติก ลดการเผาไหม้ ใช้พลังงานสะอาด
- ฟื้นฟูทรัพยากรที่เสื่อมโทรม ปลูกป่า บำบัดน้ำเสีย ปรับปรุงดินให้เหมาะสม
- ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานหมุนเวียน เกษตรยั่งยืน
- สร้างจิตสำนึก ให้ความรู้ และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ร่วมกัน

อัคราร่วมใจ ขอเป็นส่วนหนึ่งร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
เหมืองแร่นับเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลกและมีส่วนผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ควบคู่กัน เราจึงตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอย่างรู้คุณค่า และให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่อาจได้รับผลกระทบ ด้วยการปรับปรุงทรัพยากรบางอย่างเพื่อให้ตอบโจทย์การนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการสีเขียวเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น โครงการฟื้นฟูป่าและปลูกต้นไม้กับคนเหมืองเพื่อเพิ่มทรัพยากรป่าไม้ การบำบัดน้ำใช้แล้วโดยนำน้ำจากกระบวนการผลิตหมุนเวียนกลับมาใช้อย่างคุ้มค่า เพื่อช่วยลดปัญหาขาดแคลนทรัพยากรน้ำภายในท้องถิ่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงและประหยัดการใช้ไฟฟ้า โครงการคลินิกเกษตรที่ช่วยแก้ปัญหาดินในพื้นที่ที่มีสภาพเป็นกรด ให้สามารถปลูกพืชและข้าวได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
ทรัพยากรธรรมชาติ คือ ‘มรดก’ ที่เราได้รับมาจากธรรมชาติและต้องส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ร่วมกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูระบบนิเวศและการปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์โลกตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงระดับองค์กร ล้วนเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่
เพราะอนาคตของโลกและของเราทุกคนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการลงมือทำในวันนี้ เพื่อให้โลกใบนี้ยังคงเป็นบ้านที่อุดมสมบูรณ์ น่าอยู่ และยั่งยืนสำหรับทุกคน