รอบตัวเราเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น หนึ่งในนั้นคือ ‘หินและแร่’ วัตถุดิบธรรมชาติที่อยู่คู่กับโลกเรามาเนิ่นนาน แต่รู้หรือไม่ว่า… หินและแร่ใกล้ตัวที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้มีความสำคัญและมีประโยชน์มากกว่าที่คิด! ที่เหมืองแร่ทองคำ ชาตรี เราจึงอยากชวนทุกท่านไปทำความรู้จักกับโลกของหินและแร่ใกล้ตัวรอบเหมืองทอง ว่ามีหินอะไรบ้าง หินแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง หรือแม้กระทั่งหินแร่ทองคำ อยู่ในหินอะไร มาตามหาคำตอบกันได้ที่นี่
เรื่องราวของหินและแร่คืออะไร เกิดมาจากอะไรกันนะ ? หินและแร่นั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของเปลือกโลก เป็นแหล่งกำเนิดของทรัพยากรธรรมชาติและเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงความเชื่อและวัฒนธรรมของมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วย โดยหินและแร่นั้นแตกต่างกัน ดังนี้
แร่ เกิดจากกระบวนทางธรณีวิทยา ที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวของธาตุต่าง ๆ ในเปลือกโลก เช่น การตกผลึกของแมกมา การตกตะกอนในน้ำ หรือการเปลี่ยนแปลงของแร่เดิมจากแรงดันและอุณหภูมิสูง
หิน เกิดจากการรวมตัวกันของแร่ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป ผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาอันยาวนาน ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักได้แก่ หินอัคนี (Igneous rocks) ที่เกิดจากการเย็นตัวของแมกมาใต้ผิวโลก หรือลาวาที่ถูกพ่นออกมา, หินตะกอน (Sedimentary rocks) ที่เกิดจากการสะสมและทับถมร่วมกันของตะกอนหินแร่ต่าง ๆ และหินแปร (Metamorphic rocks) ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายใต้ความร้อนและแรงดันมหาศาลทำให้หินและแร่ปรับตัวและตกผลึกกลายเป็นหินใหม่ ๆ
นอกจากนี้ กระบวนการเกิดหินและแร่เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า วนเวียนตามกาลเวลาจนกลายเป็นวัฏจักรของหิน (Rock Cycle) และทำให้เกิดเป็นหินประเภทอื่น ๆ ได้ตามเวลาและตามสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น ดังนั้นหินและแร่เหล่านี้จึงมีความสำคัญทางธรณีวิทยาที่ช่วยให้เราสามารถเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลกและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์นั่นเอง
พาตะลุยรอบเหมือง ! กับ 5 หินและแร่ที่สามารถพบเจอได้ใกล้เหมือง… จะมีหินแร่ชนิดไหนบ้าง ?
1. แคลไซต์ (Calcite)
ลักษณะ : แร่แคลไซต์เป็นแร่แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) ที่พบได้ในหินปูน หินชอล์ก หรือหินแปรชนิดต่าง ๆ มีลักษณะเป็นผลึกใสหรือขุ่น สีขาวหรือเหลืองอ่อน โดยมักจะมีลักษณะเป็นแผ่นบางหรือผลึกสามเหลี่ยม ซึ่งหากนำกรดเกลือมาหยดลงหินแร่แคลไซต์ หินจะทำปฏิกิริยาเกิดเป็นฟองฟู่ขึ้นมา นอกจากนี้ แร่แคลไซต์สามารถเกิดเป็นสายแร่แคลไซต์ (Calcite vein) ตัดแทรกเข้าไปในหินชนิดต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น หินแร่แคลไซต์ที่เหมืองทองคำชาตรี เกิดร่วมกับสายแร่ควอตซ์อุ้มสินแร่ทองคำที่ตัดแทรกเข้ามาในหินภูเขาไฟ
ประโยชน์ของแร่แคลไซต์:
นำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ เป็นส่วนประกอบหลักในหินปูนที่ใช้ในการสร้างอาคารและถนน
ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี เพื่อผลิตแคลเซียมออกไซด์ (CaO) หรือที่ทั่วไปเรียกกันว่าปูนขาว
ใช้ในงานตกแต่ง เช่น เป็นหินอ่อนในการทำพื้นหรือแผ่นปูพื้น
ใช้ในการทำอุปกรณ์เกี่ยวกับกล้องจุลทรรศน์แบบ Polarizing microscope
เป็นแร่ที่สำคัญในการผลิตแสงเลเซอร์
2. แมกนีไทต์ (Magnetite)
ลักษณะ: แมกนีไทต์เป็นแร่เหล็กออกไซด์ (Fe₃O₄) ที่พบทั่วไปในหินอัคนีที่เกิดจากการตกผลึก มีลักษณะเป็นสีดำหรือสีเทาเข้ม มีคุณสมบัติทางแม่เหล็กที่สามารถดูดหรือถูกดูดโดยแม่เหล็กได้ จึงสามารถตรวจสอบหินแร่ชนิดนี้ได้ด้วยการนำแม่เหล็กมาทดสอบนั่นเอง ซึ่งหินแร่แมกนีไทต์นี้เป็นอีกหนึ่งสินแร่ที่สําคัญในวงการอุตสากรรมที่เกี่ยวข้องกับเหล็กและแม่เหล็ก
ประโยชน์ของแมกนีไทต์:
ใช้ในการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการถลุงเหล็ก
ใช้ในอุตสาหกรรมแม่เหล็กในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า
ใช้ในการทำแม่เหล็กและใช้ในงานวิจัยทางธรณีวิทยา
3. แร่ไพไรต์และสินแร่ทองคำ (Pyrite และ Gold Ore)
ความเหมือนที่แตกต่าง จนยากจะแยกออก… แร่ไพโรต์และสินแร่ทองคำเป็นหินแร่ที่เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย ด้วยลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกันมากจนยากจะแยก จึงทำให้คนมักสับสนกันได้เสมอ โดยแร่ทั้ง 2 มีความแตกต่างกัน ดังนี้
แร่ไพไรต์ (Pyrite)
ลักษณะ เป็นแร่ซัลไฟด์ที่ประกอบด้วยเหล็กซัลไฟด์ (FeS₂) มักพบอยู่ในลักษณะผลึกเป็นรูปลูกบาศก์ มีสีทองหรือเหลืองทองซึ่งมีความคล้ายคลึงกับทองคำมาก แต่เมื่อนำมาทดสอบด้วยการขูดกับดินเผาหรือกระเบื้อง จะให้ริ้วออกมาเป็นสีเขียวเข้ม หรือสีดำที่ดูเหมือนไม่มีคุณค่าเทียบเท่ากับทองคำ จึงมักถูกเรียกว่า ‘ทองคนโง่’ แต่ทั้งนี้แร่ไพไรต์นับเป็นสินแร่กำมะถันที่สำคัญโดยเป็นสารตั้งต้นของกรดกำมะถันนั่นเอง
ประโยชน์หินแร่ไพไรต์:
ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผลิตกรดซัลฟูริกและเป็นแหล่งของกำมะถัน
ใช้เป็นกรดตั้งต้นซึ่งใช้ในการทำสีย้อมและการทำหมึก
ทำยารักษาเนื้อไม้และยาฆ่าเชื้อโรค
ใช้เป็นส่วนประกอบของโซล่าเซลล์
ในบางประเทศที่หาแหล่งเหล็กออกไซด์ไม่ได้ แร่ไพไรต์จะถูกใช้เป็นแหล่งสินแร่เหล็ก
สินแร่ทองคำ (Gold Ore)
ลักษณะสินแร่ทองคำ: หากถามว่าแร่ทองคํา อยู่ในหินอะไร ต้องบอกว่าสามารถพบได้ในหินเกือบทุกชนิด โดยสินแร่ทองคำเป็นแร่ที่มีสีเหลืองวาวแบบโลหะ ลักษณะเป็นเกล็ดหรือก้อนกลม ซึ่งหากนำไปขูดกับกระเบื้องหรือดินเผาจะทิ้งริ้วสีเหลืองและมีลักษณะยืดเหนียว สำหรับการสกัดสินแร่ทองคำจะต้องใช้ความชำนาญผ่านกระบวนการทางเคมีและกายภาพเพื่อแยกทองคำออกมา ดังเช่น สินแร่ทองคำที่เกิดในแหล่งแร่ทองคำชาตรี คือ สายแร่ควอตซ์แคลไซต์ซัลไฟด์ที่อุ้มสินแร่ทองคำขนาดเล็ก (ไมครอน) ซึ่งตัดแทรกเข้ามาในหินตะกอนภูเขาไฟชนิดแอนดีไซต์ (Andesite)
ประโยชน์สินแร่ทองคำ:
นำไปใช้ในการทำเครื่องประดับ ทำเหรียญและทองแท่งเพื่อเก็บรักษามูลค่าหรือลงทุนเป็นหลัก
ประกันในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในวงการทันตแพทย์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ในอากาศยาน
4. ไม้กลายเป็นหิน (Petrified Wood)
ลักษณะไม้กลายเป็นหิน: เป็นหินที่มีลักษณะภายนอกเห็นเป็นเส้นริ้วๆ คล้ายลายไม้ ภายในมีสีหลากหลายสี โดยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแร่ธาตุภายใต้กระบวนการย่อยสลายของไม้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักเป็นแร่ธาตุซิลิกา (SiO₂) ที่เข้าไปแทนที่โครงสร้างของเซลล์ไม้อย่างช้า ๆ หลายร้อยปีจนเปลี่ยนโครงสร้างไม้ให้กลายเป็นหินได้ในที่สุด อีกทั้งสีสันที่หลากหลายในเนื้อไม้มาจากการมีแร่ธาตุผสมอยู่ เช่น สีเขียวหรือฟ้า ได้จากทองแดงหรือโครเมียม สีดำได้จากคาร์บอนหรือแมงกานีสออกไซด์ สีแดง เหลือง น้ำตาลได้จากเหล็กออกไซด์ เป็นต้น
ประโยชน์ไม้กลายเป็นหิน:
ใช้สำหรับตกแต่ง เช่น การทำเครื่องประดับหรือโมเดล
เป็นวัตถุดิบในงานวิจัยทางธรณีวิทยา เนื่องจากช่วยให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ของโลก
ใช้ในงานวิจัยเกี่ยวกับพืชโบราณหรือฟอสซิล
5. แร่ควอตซ์ (Quartz)
ลักษณะแร่ควอตซ์: ควอตซ์หรือชื่อภาษาไทยว่า หินเขี้ยวหนุมาน เป็นแร่ที่ประกอบด้วยซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO₂) มีลักษณะเป็นแท่งยาวปลายแหลมทั้งหัวและท้าย แวววาวคล้ายแก้วแต่มีสีหลากหลาย ตั้งแต่สีใส สีขาวไปจนถึงสีม่วง สีชมพูหรือสีเหลืองได้ โดยเป็นหินแร่ที่เกิดจากการรวมตัวของแร่ที่ได้จากการผุพังของหินอัคนี ซึ่งแร่ควอตซ์นี้เป็นแร่ประกอบหินหลักในหินแทบทุกชนิด เช่น หินแกรนิต หินทราย และหินควอตซ์ไซต์ เป็นต้น
ประโยชน์แร่ควอตซ์:
ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การผลิตชิปคอมพิวเตอร์และเซลล์แสงอาทิตย์
ใช้ในการทำเครื่องประดับ เช่น พลอยควอตซ์, อเมทิสต์, และโรสควอตซ์
ใช้ในอุตสาหกรรมแก้วและวัสดุก่อสร้าง เช่น หินควอตซ์และกระเบื้อง
ใช้ทำเครื่องมือวิทยาศาสตร์และเครื่องมือทางแสง เช่น เลนส์ ปริซึมและกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษ
Master K EP.2 หินและแร่ หินธรรมดา… ที่ไม่ธรรมดา
VIDEO
Master K EP.2 (with ENG sub)
เห็นไหมว่า 5 หินแร่ที่เรากล่าวถึงข้างต้นล้วนมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และมีการใช้ประโยชน์ในหลากหลายแง่มุม ทั้งในด้านการก่อสร้าง การผลิตพลังงาน การทำเครื่องมือวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการทำเครื่องประดับได้อีกด้วย เรียกได้ว่าโลกของหินและแร่ยังมีเรื่องราวและความมหัศจรรย์อีกมากมายที่รอให้เราค้นหาและเรียนรู้ มาเปิดใจและสัมผัสความงามของธรรมชาติรอบตัว แล้วคุณจะพบว่าหินและแร่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนคุณค่าและความลับเอาไว้มากมาย !
แหล่งอ้างอิง: https://www.dmr.go.th/calcite https://www.dmr.go.th/magnetite